8 ปัจจัยสำหรับการเลือกมหาวิทยาลัยในรัสเซีย

8 ปัจจัยสำหรับการเลือกมหาวิทยาลัยในรัสเซีย

แม้ว่ามหาวิทยาลัย Moscow State University จะเป็นมหาวิทยาลัยที่อยู่ในอันดับหนึ่งของมหาวิทยาลัยในรัสเซียจากการจัดอันดับของมหาลัยโลก แต่นอกเหนือจากมหาวิทยาลัยนี้แล้วก็ยังมีมหาวิทยาลัยอื่นๆ อีกมากมายที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
สำหรับผู้ที่สนใจที่จะเดินทางไปศึกษาต่อยังประเทศรัสเซียคงจะต้องทำความเข้าใจก่อนว่าระบบการศึกษาในรัสเซียนั้นค่อนข้างมีความแตกต่างจากระบบการศึกษาในประเทศยุโรปอื่นๆ พอสมควร ดังนั้นวันนี้เราจะมาดูซิว่า ปัจจัยใดบ้างที่เราควรพิจารณาในการเลือกมหาวิทยาลัยในรัสเซีย

1. การจัดอันดับ
แม้ว่าการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกนั้นจะไม่ค่อยเห็นชื่อมหาวิทยาลัยของรัสเซียสักเท่าไหร่ แต่เราจะตัดสินว่ามหาวิทยาลัยดีหรือไม่ดีเพียงแค่เรทติ้งของโลกอย่างเดียวคงไม่ได้ สำหรับผู้ที่ต้องการเรียนในสถาบันการศึกษาที่รัสเซียคงต้องอาศัยการจัดอันดับภายในประเทศด้วยเช่นกัน เพราะการจัดอันดับถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะทำให้เราทราบว่ามหาวิทยาลัยไหนมีคุณสมบัติเด่นในด้านใด นอกจากนี้การจัดอันดับมหาวิทยาลัยของแต่ละสำนักก็มีการพิจารณาหลักการที่ใช้ในการจัดอันดับหรือใช้ตัวแปรที่แตกต่างกันไป และลักษณะของการจัดอันดับของมหาวิทยาลัยก็มีหลายแบบ เช่น การจัดอันดับมหาวิทยาลัยทางการแพทย์ การศึกษา หรือด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ดังนั้นเราก็ควรจะเลือกจากการจัดอันดับที่เหมาะสมกับการเรียนของเราในอนาคตซึ่งจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

2. การสื่อสาร
เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่าภาษารัสเซียนั้นเป็นภาษาราชการ แต่ถึงกระนั้นหากคุณต้องการไปศึกษาที่นั่นโดยไม่มีพื้นฐานภาษารัสเซียมาก่อนแล้ว อย่างน้อยๆ ก็ควรมีพื้นฐานภาษาอังกฤษบ้าง เพราะหากไม่สามารถสื่อสารด้วยภาษารัสเซียในช่วงแรกได้ ก็ยังพอมีทางเลือกในการใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารแทน นอกจากนี้ก็ควรมองหามหาวิทยาลัยที่มีความพร้อมในการรับนักศึกษาต่างชาติ รวมถึงมีระบบการดูแลและให้ความช่วยเหลือ เพราะจะได้ช่วยอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ หลายมหาวิทยาลัยจะมีศูนย์ดูแลนักศึกษาต่างชาติ เช่น มหาวิทยาลัย Moscow State University, Institute of Physics and Technology, Tomsk Polytechnic University, Ural Federal University, Peter the Great St. Petersburg Polytechnic University และยังมีมหาวิทยาลัยอื่นๆ อีกมากมาย

3. สาขาและความเชี่ยวชาญ
ประเทศรัสเซียจัดเป็นประเทศผู้นำทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านฟิสิกส์นิวเคลียร์ ปัจจุบันรัฐบาลรัสเซียได้ส่งเสริมนักศึกษาไทยไปศึกษาต่อในด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี เศรษฐศาสตร์ โดยเฉพาะด้านพลังงานนิวเคลียร์มากขึ้น หนึ่งมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในด้านนี้คือ Moscow Engineering Physics Institute มหาวิทยาลัยนี้ถือเป็นมหาวิทยาลัยที่ผลิตนักฟิสิกส์นิวเคลียร์และเป็นศูนย์ฟิสิกส์นิวเคลียร์ชั้นนำของประเทศ แต่เราอาจจะไม่เห็นชื่อมหาวิทยาลัยนี้ในการจัดอันดับ ทั้งนี้เนื่องจากมหาวิทยาลัยนี้เป็นมหาวิทยาลัยเฉพาะทางและไม่เข้ากับเกณฑ์การจัดอันดับโลกของหลายๆ สำนัก การเลือกเรียนในรายวิชาที่รัสเซียมีความก้าวหน้า ไม่เพียงแต่คุณจะได้รับความรู้จากอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญที่มากประสบการณ์เท่านั้น แต่อาจจะทำให้คุณกลายมาเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาที่เมืองไทยยังขาดแคลนอยู่ก็ได้ ถือเป็นการสร้างความแตกต่างทางโอกาสให้กับวงการทางการศึกษาของไทยไปพร้อมๆ กัน

4. ค่าใช้จ่าย
ไม่ต้องบอกก็คงรู้กันดีอยู่แล้วว่าค่าครองชีพในเมืองหลวงหรือตามเมืองใหญ่ๆ เช่น กรุงมอสโก และเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กนั้น ย่อมแพงกว่าเมืองในต่างจังหวัด สำหรับผู้ที่เดินทางไปเรียนโดยใช้ทุนตนเอง ปัจจัยนี้จึงถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ไม่ควรมองข้าม เพราะต้องประเมินความสามารถทางการเงินสำหรับค่าครองชีพ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเมืองหลวงเป็นศูนย์รวมของมหาวิทยาลัยชั้นนำ หากเลือกมหาวิทยาลัยในเมืองใหญ่ๆ แนะนำให้สอบถามกับทางมหาวิทยาลัยถึงความเป็นไปได้ในการเข้าพักในหอของทางมหาวิทยาลัย เพราะจะช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆ ไปได้มากกว่าการไปหาเช่าบ้านหรือห้องพักเอกชนข้างนอก นอกจากนี้ก็ยังมีทางเลือกในการประหยัดค่าใช้จ่ายในการเรียนอีกหนึ่งวิธี ซึ่งก็คือหัวข้อที่จะกล่าวต่อไปนั่นเอง

5. การให้ทุนการศึกษา
นอกเหนือไปจากการเรียนด้วยทุนตนเองแล้ว หากมีโอกาสเลือกเรียนในมหาวิทยาลัยที่เปิดให้ทุนก็นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการศึกษาต่อในรัสเซีย โดยทุกๆ ปี ทางกระทรวงศึกษาธิการของรัสเซียจะเปิดโอกาสให้กับนักศึกษาจากต่างประเทศได้สมัครเข้าเรียนในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก ในสาขาต่างๆ โดยรัฐบาลรัสเซียได้จัดสรรทุนการศึกษาให้แก่นักศึกษาไทยปีละประมาณ ๒๕ ทุน โดยให้ทางสถานทูตรัสเซียในแต่ละประเทศเป็นศูนย์กลางในการดำเนินการ สำหรับในประเทศไทยแล้วสามารถติดตามข่าวสารการสมัครทุนได้จากทางเวปไซต์ของสถานทูตรัสเซียประจำประเทศไทย http://thailand.mid.ru/th/ สำหรับทุนจากรัฐบาลรัสเซียนั้นผู้ขอทุนจะต้องออกค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น ค่าเครื่องบิน ค่าที่พัก ด้วยตนเอง ส่วนค่าเล่าเรียนนั้นทางรัฐบาลรัสเซียจะเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งรายละเอียดต่างๆ นั้นสามารถหาอ่านได้จากในเวปไซต์สถานทูต นอกจากทุนการศึกษานี้แล้ว ยังมีทุนการศึกษาที่ทางมหาวิทยาลัยเปิดให้โดยตรง ในกรณีนี้จะต้องเปิดเข้าไปดูในรายละเอียด และคุณสมบัติที่แต่ละมหาวิทยาลัยกำหนดได้จากเวปไซต์ของมหาวิทยาลัย

6. ความสัมพันธ์กับสถาบันวิจัยทางวิทยาศาสตร์
สำหรับผู้ที่เลือกเรียนทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ควรให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เช่นกัน เนื่องจากแต่ละมหาวิทยาลัยจะมีส่งนักศึกษาไปตามสถาบันวิจัยต่างๆ ที่ได้ทำข้อตกลงร่วมกันไว้ ซึ่งหากคุณสนใจอยากเข้าไปฝึกงานหรือเรียนรู้จากสถาบันวิจัยใดเป็นพิเศษแล้ว ก็ควรจะดูว่ามหาวิทยาลัยที่คุณมองไว้เค้ามีสัญญาไว้กับสถาบันวิจัยใด ตัวอย่างเช่น คณะฟิสิกส์ในมหาวิทยาลัย Lobachevsky State University เมือง Nizhni Novgorod ได้มีการทำสัญญาส่งนักศึกษาไปฝึกงานที่สถาบัน Scientific-Research Physics-Technical Institute เป็นต้น

7. โอกาสในการร่วมเรียนกับนักศึกษาท้องถิ่นชาวรัสเซีย
ควรศึกษาดูว่าคณะที่เรียนนั้นเรียนร่วมกับนักศึกษานักศึกษาจากชาติใดบ้าง มีโอกาสได้ร่วมเรียนกับนักศึกษาท้องถิ่นชาวรัสเซียหรือไม่ การได้มีเพื่อนท้องถิ่นชาวรัสเซียจะช่วยให้คุณได้ภาษารัสเซียเร็วขึ้น และไม่เพียงแต่จะเพิ่มทักษะการสื่อสารภาษารัสเซียเท่านั้น แต่ยังทำให้สามารถเรียนรู้วัฒนธรรม ประเพณีท้องถิ่นจากเพื่อนชาวรัสเซียได้อีกด้วย

8. การรองรับวิทยฐานะ
ข้อนี้คงเป็นข้อที่สำคัญและขาดไม่ได้อย่างเด็ดขาดในการพิจารณาการศึกษาต่อในรัสเซีย แน่นอนว่าคุณคงไม่อยากเรียนในคณะที่เมื่อคุณเรียนจบกลับมาแล้วไม่สามารถใช้วุฒิที่เรียนนั้นมาทำงานในประเทศไทยที่ตรงตามสายอาชีพที่จบมาได้ โดยเฉพาะวิชาชีพเฉพาะทาง เช่น แพทย์ พยาบาล ควรจะเลือกมหาวิทยาลัยที่ได้รับการรองรับวิทยฐานะและสามารถเทียบวุฒิในประเทศไทยได้ สำหรับผู้ที่เลือกเรียนวิชาเฉพาะทาง ควรทำการตรวจสอบกับกระทรวงศึกษาธิการของไทยก่อน ไม่เช่นนั้นแล้ววุฒิของคุณอาจใช้ได้เพียงแค่ในรัสเซียหรือในประเทศที่ยอมรับวุฒิการศึกษาที่คุณได้มาเท่านั้น

----SayHiRussia---

ข้อมูลอ้างอิง:
http://thailand.mid.ru/th/
http://rbth.com/…/7-key-factors-in-choosing-a-russian-unive…
http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php…