รัสเซียที่คุณยังไม่เคยเห็น....."Unseen Russia"

Last updated: 31 ม.ค. 2560  |  3310 จำนวนผู้เข้าชม  | 

รัสเซียที่คุณยังไม่เคยเห็น....."Unseen Russia"

รัสเซียที่คุณยังไม่เคยเห็น....."Unseen Russia"

ในดินแดนคัมชัตก้า ถือเป็นดินแดนหนึ่งในประเทศรัสเซียที่ยังคงไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรทางธรรมชาติ และความสวยงามที่เกินจะบรรยาย ในดินแดนแห่งนี้เป็นที่ตั้งของภูเขาไฟหนึ่งเดียวที่ยังคงทรงพลังอยู่นั่นก็คือ ภูเขาไฟ มาลึย ซิมยาชิค (Малый Семячик )ที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาคัมชัตก้าที่ทอดยาวตั้งแต่ทิศเหนือไปจวบจนทิศตะวันออก

คำว่า ซิมยาชิค(Семячик) ที่เป็นชื่อของภูเขาไฟแห่งนี้นั้น เป็นภาษาถิ่นของชาวคัมชัตก้า มีความหมายว่า ดินแดนแห่งหิน หรือ ดินแดนแห่งขุนเขา ตรงปล่องภูเขาไฟแห่งนี้เป็นที่ตั้งของทะเลสาบสีเขียวอ่อนที่มีความสวยงามระยิบระยับเกินกว่าจะพรรณนา โดยผู้ที่ค้นพบทะเลสาบแห่งนี้เป็นคนแรกคือนักสำรวจภูเขาไฟที่ชื่อว่า โทรอิสกี้ (В.Д.Троицкий) และเพื่อเป็นเกียรติกับท่าน ทะเลสาบที่อยู่บนปล่องภูเขาไฟแห่งนี้จึงใช้ชื่อว่า โทรอิสกี้ ปล่องภูเขาไฟนี้ถือเป็นหนึ่งในสามของปล่องภูเขาไฟทั้งหมดที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาแห่งนี้

คาดการณ์ว่า หลังจากการระเบิดของภูเขาไฟในปี 1952 ที่ปล่องภูเขาไฟได้เกิดทะเลสาบที่มีสีเขียวอ่อนขึ้น อิทธิพลของความร้อนใต้ผิวโลกระยะหนึ่งทำให้ทะเลสาบแห่งนี้กลายเป็นทะเลสาบเดือด และมีไอน้ำที่ระเหยออกจากทะเลสาบอยู่ตลอดเวลา เส้นผ่าศูนย์กลางของทะเลสาบแห่งนี้มีความยาวกว่า 600 เมตร กินพื้นที่ประมาณ 2 แสนตารางเมตร มีระดับความลึกตั้งแต่ 117 – 140 เมตร การระเบิดในครั้งนั้นทำให้บริเวณรอบของปล่องภูเขาไฟเต็มไปด้วยหินภูเขาไฟที่กระจัดกระจายอยู่เต็มพื้นดิน ความสวยงามของทะเลสาบแห่งนี้ซ่อนไว้ด้วยความน่าสะพรึงกลัว เพราะมันไม่ได้เป็นเพียงทะเลสาบธรรมดา แต่มันคือ "ทะเลสาบกรด" น้ำในทะเลสาบแห่งนี้ประกอบไปด้วยกรดซัลเฟตและสารอื่นๆ โดยมีปริมาณมากถึง 40 - 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสูงกว่าปริมาณของเกลือในน้ำทะเลมาก ด้วยเหตุนี้จึงทำให้น้ำในทะเลสาบแห่งนี้มีรสเปรี้ยวและมีสภาพเป็นกรด นอกเหนือไปกว่านั้นอุณหภูมิในน้ำก็ยังสูงถึง 40 องศาฯ

ในฤดูหนาวน้ำในทะเลสาบแห่งนี้กลับไม่แข็งตัวเหมือนกับที่อื่นๆ แต่มันยิ่งสะท้อนความสวยงามของสีเขียวอ่อนที่โดดเด่นท่ามกลางความขาวโพนของขุนเขาที่เต็มไปด้วยหิมะ ในช่วงหลังปี 1992 มีแนวโน้มว่าทะเลสาบแห่งนี้คลายความคุกรุ่นจากความร้อนภายใต้ผิวโลกลง ในช่วงฤดูหนาวบางครั้งมีการแข็งตัวของน้ำมากขึ้น แต่ในบางครั้งก็ยังคงมีบางส่วนของน้ำแข็งบนทะเลสาบที่เว้าแหว่งเพราะความร้อนใต้พิภพ แม้ว่าความคุกรุ่นของความร้อนใต้โลกอาจจะจางหายไปบ้างแล้ว แต่ดูเหมือนว่ากลิ่นของกำมะถันที่อยู่ในทะเลสาบแห่งนี้นั้น มันยังคงอยู่และเป็นสิ่งเดียวที่ไม่เคยจางหายไป

แม้ว่าหลายคนจะทราบดีถึงความอันตรายของดินแดนแห่งนี้ แต่มันก็ยังคงเป็นเป้าหมายในการเดินทางของใครหลายๆ คนที่ต้องการพิสูจน์และอยากไปสัมผัสกับความสวยงามของทะเลสาบแห่งนี้อย่างใกล้ชิด การเดินทางไปยังทะเลสาบมีทั้งการจัดทัวร์เดินเท้า และบริการโดยเฮลิคอปเตอร์ การเดินทางยิ่งใกล้ทะเลสาบเข้าไปเท่าไหร่ ความสวยงามของมันก็ยิ่งลดน้อยลง ในขณะเดียวกันความอันตรายกลับเพิ่มมากขึ้น อาการไอที่เกิดจากสารระเหยที่มาพร้อมกับไอน้ำจากทะเลสาบยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นทุกก้าวที่เข้าใกล้มัน หน้ากากกันก๊าซถือเป็นอุปกรณ์หลักอย่างหนึ่งของผู้ที่ต้องการเดินทาง แทนที่ผู้ที่เข้าใกล้จะได้สัมผัสกับความสวยงามอย่างใกล้ชิด กลับกลายเป็นว่ายิ่งเข้าไปใกล้เท่าไหร่ความสวยงามของทะเลสาบสีเขียวอ่อนก็ยิ่งลดลง จนท้ายที่สุดหลงเหลือไว้ที่ปลายทางเพียงแค่น้ำสีขุ่นโคลน เพราะไม่ได้รับอิทธิพลจากแสงสะท้อนของรังสีจากดวงอาทิตย์

ครั้งหนึ่งมีนักสำรวจภูเขาไฟได้เคยเดินทางสำรวจในทะเลสาบแห่งนี้ด้วยเรือ และก็ประสบกับปัญหาในการเดินทางกลับยังชายฝั่งเนื่องจากน้ำในทะเลสาบกัดกร่อนไม้พายจนแทบใช้การไม่ได้ การเดินทางไปยังทะเลสาบแห่งนี้สามารถใช้เส้นทางจากทางทิศเหนือของทะเลสาบเท่านั้น โดยเส้นทางเต็มไปด้วยหินสลับกรวดและหน้าผาที่มีความสูงชัน โดยมีความสูงถึง 20 เมตร เพื่อความปลอดภัยการเดินทางจำเป็นต้องใช้เชือกและรอก

นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปที่นั่นจะพบกับหินภูเขาไฟที่มากมายและสวยงาม รวมถึงได้เห็นทุ่งเบอร์รี่ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในบริเวณทุ่งหญ้าทุนดร้าที่กว้างใหญ่จนลับสายตา ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการเดินทางมากที่สุด คือ เดือนสิงหาคม และกันยายน ที่กำลังจะมาถึงนี้.....และทั้งหมดก็คือ รัสเซียที่คุณยังไม่เคยเห็น และอาจจะไม่มีวันได้เห็น.....

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้